เเลนด์มาร์กของประเทศเกาหลีใต้

เเลนด์มาร์คของประเทศเกาหลีใต้



                                     1.พระราชวังเคียงบก


   พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชวังคยองบกกุง” เป็นทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน เดิมทีนั้นภายในพระราชวังมีอาคารและตำหนักต่างๆมากกว่า 200 หลัง แต่เมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น
พระราชวังทิศเหนือ (Northern Palace) ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เมื่อเทียบกับพระราชวังแห่งอื่นๆ เช่น พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และพระราชวังเคียงฮุยกุง (Gyeongheegung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก อย่างไรก็ตามพระราชวังเคียงบกกุงนั้นขึ้นชื่อว่า เป็นพระราชวังที่สวยงามที่สุด เนื่องจากฉากหลังของพระราชวังนั้นเป็นเขาพูกักซาน จึงทำให้ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก


                    2.Bukchon Hanok หมู่บ้านบุคชอน


  หมู่บ้านดั้งเดิมของเกาหลีที่มีประวัติยาวนานที่เรียกว่า ฮันอก (Hanok) ตั้งอยู่ระหว่าง พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace), พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) และอารามหลวงจองเมียว (Jongmyo Royal Shrine) คำว่า บุกชอน (Bukchon) มีความหมายว่าหมู่บ้านทางตอนเหนือ ตามตำแหน่งที่ตั้งของหมู่บ้านที่อยู่ทางทิศเหนือของคลองชองเกชอน (Cheonggyecheon Stream) และชงโน (Jongno) หมู่บ้านมีลักษณะเป็นตรอกซอกซอยอันเป็นที่ตั้งของบ้านแบบดั้งเดิมกว่าร้อยหลัง และเป็นที่เก็บรักษาสภาพแวดล้อมของเมืองไว้ เพื่อเป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอนที่มีอายุกว่า 600 ปี



3.Korean folk village 

  เป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองบรรยากาศ เเละวิธีชีวิตความเป็นอยู่ของราชวงค์โจซอนยุคปลาย บนเนื้อที่กว่า 615 ไร่ ได้รวบรวมบ้าน เเละอาคารสถานที่ต่าง ในเกาหลีมาไว้ถึง 260 หลัง โอบล้อมโดยธรรมชาติ ภูเขา ลำธาร มีการสาธิตการใช้ชีวิตของคนสมัยนั้น นักท่องเที่ยวสามารถร่วมทำเวิร์คช็อป เช่น ปั้นหม้อ ดูดวง ดูโหวงเฮ้ง นอกจากที่นี้มีการจำลองสถานการณ์ต่างๆ เช่น การสอบสวนผู้ต้องสงสัย การเเสดงฟ้อนรำ 




                                      4.สวนป่า กรุงโซล 


                                                                                                            สวนป่ากรุงโซล(Seoul Forest, 서울숲)เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึงขนาดที่เรียกว่าป่ากลางเมืองเลยทีเดียว ที่แต่เดิมเป็นป่าหลวงที่ให้ราชวงศ์กษัตริย์ใช้ล่าสัตว์ และเป็นพื้นที่สำหรับการตรวจสอบทหาร ต่อมาถูกดัดแปลงให้กลายเป็นสนามกอล์ฟ สนามแข่งม้า และสวนกีฬาในที่สุด ภายในประกอบด้วยสวนสาธารณะ 5 สวน ในพื้นที่ขนาดยักษ์ถึง 1.16 ล้านตารางเมตร มีไฮไลท์เรื่องการเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี และจุดชมดอกพอทกวกหรือซากุระเกาหลีที่สวยงามของกรุงโซล 
สวนย่อยต่างๆ
1.สวนศิลปะวัฒนธรรม Cultural Art Park (220,000 ตารางเมตร)
ตั้งอยู่ใจกลางสวนป่ากรุงโซล ประกอบด้วย จตุรัสป่ากรุงโซล, สนามตุกซอม, สวนดอกไม้, ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว, ลานสเก็ต, เวทีกลางแจ้ง, เลานจ์อาหารริมน้ำ, สนามเด็กเล่นในป่า และพื้นที่สำหรับเล่นน้ำ
2.สวนนิเวศวิทยา Ecological Forest(165,000 ตารางเมตร)
เป็นป่านิเวศวิทยาล้อมรอบด้วยแม่น้ำฮันกัง ซึ่งได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นพื้นที่สีเขียวเชื่อมต่อกับกระแสน้ำจุงนัง(Jungnang stream) มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เช่น กวางเขากำมะหยี่, กวางมูส, ชิปส์มั้งก์, เป็ดแมนดาริน, เป็ดแมลลาร์ด, เป็ดเทาพันธุ์อินเดีย และนกอีโก้ง(จะงอยปากสีแดงเหลือง)
3.สวนศึกษาธรรมชาติ Nature Experiencing Study Field (85,000 ตารางเมตร)
เดิมเป็นที่ตั้งของอุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย ปัจจุบันกลายเป็นบ้านสวนพฤกษศาสตร์ สวนแมลง สวนดอกไม้ป่า และแนวป่าไม้ป้องกันโดยรอบ
4.พื้นที่นิเวศวิทยาชุ่มน้ำWetlands Ecological Field (70,000 ตารางเมตร)
เป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติท้องถิ่น, สำนักงานการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ, สนามเด็กเล่น, ห้องเรียนธรรมชาติกลางแจ้ง, หอดูนก, สวนดอกไม้ในพื้นที่ชุ่มน้ำ และสวนพฤษศาสตร์ท้องถิ่น
5.สวนริมแม่น้ำฮันกัง Hangang River Waterside Park (33,000 ตารางเมตร)
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสวน ติดแม่น้ำฮันกังและกระแสน้ำจุงนัง เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน


5.อ่าวต้นกกชุนซอนนัม
  
   อ่าวต้นกกซุนชอนมัน – Suncheonman Bay Ecological Park คือพื้นที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชจำพวกต้นกกที่สูงกว่าตัวคนซึ่งมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี เมื่อมีลมพัดผ่านจะเห็นเป็นภาพพลิ้วไสวที่สวยงามน่ามองราวกับคลื่นทะเล ในอ่าวนี้เปรียบเสมือนบ้านที่พืชชนิดต่างๆสามารถเติบโตได้ดีในสภาพอากาศชื้น เช่น ต้นกกทั่วไปและวัชพืชในป่าชื้น
ในพื้นที่ชื้นน้ำทั่วโลก อ่าวต้นกกซุนชอนมันเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในเรื่องของแหล่งดูนกหายากนานาชนิด เช่น นกกระเรียนหมวกขาว, นกกระเรียนคอขาว, นกกระสาขาว, นกปากช้อนหน้าดำ และ Eurasian Oystercatcher (มิยะโกะโดริ) และได้มีการสงวนพันธ์นกเหล่านั้นให้เป็นสมบัติแห่งชาติของด้วย ซึ่งทั้งหมดมีประมาณ 140 สายพันธุ์ รวมทั้งนกปากซ่อม, เป็ดป่า, เป็ดพม่า, และห่านป่า
ในบริเวณอ่านแห่งนี้ได้มีการจัดทำทางเดินสำหรับศึกษาธรรมชาติขึ้น เมื่อไปท่องเที่ยวก็สามารถใช้เส้นทางนี้เดินเล่นชมธรรมชาติและบรรยากาศโดยรอบได้ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น